BLACKJACK เกมคาสิโนออนไลน์ที่ถูกลืม PGBETFLIK

BLACKJACK เกมคาสิโนออนไลน์ คือเกมการพนันที่กำลังนิยมอย่างมากในขณะนี้ เมื่อพูดถึงเกมคาสิโนทุกคนก็คงจะนึกถึง บาคาร่าไม่ก็ เสือมังกร แต่มีอีกเกมไพ่หนึ่งที่ถูกลืมจากคาสิโนออนไลน์

BLACKJACK เกมคาสิโนที่ถูกลืม

BLACKJACK เป็นเกมที่ไม่นิยมเท่าไหร่นักในประเทศไทย ส่วนการเล่นนั้นก็ง่ายมากสำหรับเกม BLACKJACK เพียงแค่ทำให้เลขหน้าไพ่รวมกันให้ใกล้เคียง 21 มากที่สุด หรือถ้าหากรวมกันได้ 21 แต้มก็ถือว่าเป็นผู้ชนะไปเลย แต่ถ้าหากรวมกันแล้วได้เกิน 21 ก็จะถือว่าแพ้ทันทีเช่นกัน

วิธีการเล่นเกมไพ่ BLACKJACK

  1. ผู้เล่นวางเดิมพัน
  2. เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 1 ใบก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือได้ 1 ใบ หรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องคว่ำเสมอ)
  3. หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21 มากสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที (เรียกไพ่ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
  4. กฎของ BLACKJACK เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
  5. หากผู้เล่นพอใจที่ 16 สามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ

ศัพท์ BLACKJACK

  • BLACKJACK การได้แต้ม 21 ทันทีเมื่อแจกไพ่สองครั้งแรก
  • Hit การเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้เข้าใกล้ 21 แต้มมากที่สุด
  • Stand การพอใจในไพ่ที่ได้มา
  • Double down (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) เป็นการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎของแบล็กแจ็ก ผู้เล่นวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลี่ยม กรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้นเพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
  • Split (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น 5 สองใบ เจ้ามือจะถามว่าต้องการ Split? ถ้าตอบตกลงผู้เล่นก็สามารถเล่นได้ 2 ชุดได้ในเวลานั้น
  • Surrender (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) ในบางเกมผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว
  • Insurance (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ถ้าทำก็เพิ่มเงินอีกครึ่งของวงเงินเดิมพัน (เช่น เงินเดิมพัน 10 Insurance คือ 5) เพราะไพ่ A ของเจ้ามือถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็กแจ็กผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้จะริบเงินที่ทำ Insurance ไป

การตัดสิน แพ้-ชนะ

หลังจากแจกไพ่ 2 ฝ่ายระหว่าง เจ้ามือและผู้เล่น ฝ่ายใดมีแต้มใกล้เคียง 21 ที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากไม่ถึง 21 ก็สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ หากได้แต้มเกิน 21 จะเท่ากับ 0 แต้มหรือเรียกว่าระเบิด

  • 2 ฝ่ายแต้มเท่ากัน เสมอ
  • หากผู้เล่นได้ 21 แต้ม ถือว่าชนะทันที ไม่ต้องรอไพ่ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าได้BLACKJACK x1.5
  • ผู้เล่นได้รับไพ่ 2 ใบแรกเป็นคู่ สามารถแยกไพ่เป็นสองชุดในการเล่นตานั้นได้
  • หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบและมั่นใจจะชนะด้วยไพ่ใบที่ 3 สามารถเดิมพันได้ 2 เท่า

ราคาการเดิมพัน

  • ไพ่ธรรมดา   จ่าย 1:1
  • ไพ่BLACKJACK จ่าย 1:5
  • แยกไพ่  จ่าย 1:1
  • เดิมพันประกัน จ่าย 2:1
  • เก็บก่อน  จ่าย 1:1

กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค

สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย

  • เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้อง เกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
  • หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพัน วางชิพ เดิมพัน ในเวลาที่กำหนด
  • ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่น จะคว้าไว้ทั้งสองใบ
  • จากนั้น ให้นักเดิมพัน เปิดไพ่ เพื่อลุ้นว่า แต้มของท่าน ได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
  • สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
  • ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหาก จั่วอาจจะ เสี่ยงแต้ม เกินได้ ให้รอลุ้น แต้ม ของดีลเลอร์ ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง

สูตรแบล็คแจ็คฉบับเซียนขั้นเทพ

  • ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพัน ไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
  • เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
  • ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
  • เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
  • วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
  • ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม
โปรโมชั่นติดต่อเรา