BLACKJACK เกมคาสิโนออนไลน์ คือเกมการพนันที่กำลังนิยมอย่างมากในขณะนี้ เมื่อพูดถึงเกมคาสิโนทุกคนก็คงจะนึกถึง บาคาร่าไม่ก็ เสือมังกร แต่มีอีกเกมไพ่หนึ่งที่ถูกลืมจากคาสิโนออนไลน์
BLACKJACK เกมคาสิโนที่ถูกลืม
BLACKJACK เป็นเกมที่ไม่นิยมเท่าไหร่นักในประเทศไทย ส่วนการเล่นนั้นก็ง่ายมากสำหรับเกม BLACKJACK เพียงแค่ทำให้เลขหน้าไพ่รวมกันให้ใกล้เคียง 21 มากที่สุด หรือถ้าหากรวมกันได้ 21 แต้มก็ถือว่าเป็นผู้ชนะไปเลย แต่ถ้าหากรวมกันแล้วได้เกิน 21 ก็จะถือว่าแพ้ทันทีเช่นกัน
วิธีการเล่นเกมไพ่ BLACKJACK
- ผู้เล่นวางเดิมพัน
- เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 1 ใบก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือได้ 1 ใบ หรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องคว่ำเสมอ)
- หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21 มากสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที (เรียกไพ่ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
- กฎของ BLACKJACK เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
- หากผู้เล่นพอใจที่ 16 สามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
ศัพท์ BLACKJACK
- BLACKJACK การได้แต้ม 21 ทันทีเมื่อแจกไพ่สองครั้งแรก
- Hit การเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้เข้าใกล้ 21 แต้มมากที่สุด
- Stand การพอใจในไพ่ที่ได้มา
- Double down (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) เป็นการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎของแบล็กแจ็ก ผู้เล่นวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลี่ยม กรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้นเพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
- Split (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น 5 สองใบ เจ้ามือจะถามว่าต้องการ Split? ถ้าตอบตกลงผู้เล่นก็สามารถเล่นได้ 2 ชุดได้ในเวลานั้น
- Surrender (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) ในบางเกมผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว
- Insurance (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ถ้าทำก็เพิ่มเงินอีกครึ่งของวงเงินเดิมพัน (เช่น เงินเดิมพัน 10 Insurance คือ 5) เพราะไพ่ A ของเจ้ามือถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็กแจ็กผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้จะริบเงินที่ทำ Insurance ไป
การตัดสิน แพ้-ชนะ
หลังจากแจกไพ่ 2 ฝ่ายระหว่าง เจ้ามือและผู้เล่น ฝ่ายใดมีแต้มใกล้เคียง 21 ที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากไม่ถึง 21 ก็สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ หากได้แต้มเกิน 21 จะเท่ากับ 0 แต้มหรือเรียกว่าระเบิด
- 2 ฝ่ายแต้มเท่ากัน เสมอ
- หากผู้เล่นได้ 21 แต้ม ถือว่าชนะทันที ไม่ต้องรอไพ่ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าได้BLACKJACK x1.5
- ผู้เล่นได้รับไพ่ 2 ใบแรกเป็นคู่ สามารถแยกไพ่เป็นสองชุดในการเล่นตานั้นได้
- หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบและมั่นใจจะชนะด้วยไพ่ใบที่ 3 สามารถเดิมพันได้ 2 เท่า
ราคาการเดิมพัน
- ไพ่ธรรมดา จ่าย 1:1
- ไพ่BLACKJACK จ่าย 1:5
- แยกไพ่ จ่าย 1:1
- เดิมพันประกัน จ่าย 2:1
- เก็บก่อน จ่าย 1:1
กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค
สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย
- เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้อง เกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
- หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพัน วางชิพ เดิมพัน ในเวลาที่กำหนด
- ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่น จะคว้าไว้ทั้งสองใบ
- จากนั้น ให้นักเดิมพัน เปิดไพ่ เพื่อลุ้นว่า แต้มของท่าน ได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
- สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
- ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหาก จั่วอาจจะ เสี่ยงแต้ม เกินได้ ให้รอลุ้น แต้ม ของดีลเลอร์ ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง
สูตรแบล็คแจ็คฉบับเซียนขั้นเทพ
- ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพัน ไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
- เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
- ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
- เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
- วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
- ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม