Blackjack จาก Kingmaker เกมไพ่สุดฮิต ติดใจนักเดิมพัน เกมไพ่ เป็นเกมที่นักเสี่ยงโชคหลาย ๆ คน คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไพ่สำรับหนึ่ง สามารถเปลี่ยนรูปแบบการละเล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ทั่ว ๆ ไปอย่างป็อกเด้ง ผสมสิบ สลาฟ ไปจนถึงเกมไพ่ที่มีชื่อสุดเท่อย่าง Blackjack

ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในหมู่นักเสี่ยงโชค และคาสิโนต่าง ๆ รวมไปถึงบน ค่าย Kingmaker ด้วย เพราะเกมไพ่แบล็คแจ็ค เป็นเกมที่เข้าใจง่าย กติกาไม่เยอะ และเน้นการใช้จิตวิทยาในการเล่นค่อนข้างสูง ทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนชื่นชอบ และนิยมเล่นอยู่เป็นประจำ

และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เกมไพ่หลาย ๆ เกมได้ถูกผลิตออกมาในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้เล่นได้ง่าย สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 การดำเนินกิจกรรมหลาย ๆ อย่างในชีวิตประจำวันก็ถูกปรับเปลี่ยนให้มาอยู่ในระบบอินเตอร์เน็ต หรือสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น

Kingmaker Casino หนึ่งในเว็บคาสิโนเจ้าใหญ่จึงเล็งเห็นโอกาส นำเกมไพ่ยอดนิยมอย่างไพ่แบล็คแจ็คมาแปลงโฉมใหม่ และดึงเข้าสู่โลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมได้ทุกที่ทุกเวลา

ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือในระบบใดก็ตามเรียกได้ว่าสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้เล่นสุด ๆ อีกทั้ง ไพ่Blackjack ของ ค่าย KM ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม UX/UI ที่ Friendly กับผู้ใช้สุด ๆ จะเป็นยังไงนั้น มาดูไปพร้อมกันเลย

 

Blackjack จาก Kingmaker Casino เกมไพ่ทำเงินสุดปัง

เกมแบล็คแจ็ค จากค่าย Kingmaker เป็นการนำเกมไพ่ยอดนิยมอย่าง Blackjack มาปรับแพลตฟอร์มเข้าสู่โลกออนไลน์ โดยยังอิงกติการการละเล่นแบบเดิม ๆ ให้เป็นมาตรฐานในระดับสากล

โดยค่าย Kingmaker Game ได้ออกแบบ ไพ่Blackjack ในรูปแบบเกมออนไลน์ที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นที่เคยเล่น Blackjack21 มาก่อน หรือไม่เคยก็สามารถเล่นได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เข้าใจกติกาเท่านั้น

นอกจากนี้ ไพ่แบล็คแจ็ค จาก KM Casino ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับทุกเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือในระบบต่าง ๆ ทั้ง iOS หรือ Android ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบ Window หรือ Macintosh ก็สะดวกสบาย

เพราะ เกมไพ่แบล็อคแจ็ค ของ ค่าย KM ถูกออกแบบมาให้เล่นผ่านเว็บไซต์ โดยไม่ต้องลงโปรแกรม หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใด ๆ ทั้งสิ้น เรียกได้ว่า เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ก็สามารถเข้าเล่นเกมได้ทันที

วิธีการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค ค่ายคิงส์ เมคเกอร์

สำหรับกฎกติการการเล่น Blackjack นั้น สามารถทำความเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ หากผู้เล่นคนไหนที่ถือไพ่ได้ 21 แต้ม หรือใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด คนนั้นคือผู้ที่ชนะเดิมพัน โดยการนับแต้มของไพ่นั้นเรียกได้ว่าเหมือนการนับแต้มไพ่ทั่วไปคือ K Q J นับเป็น 10 แต้ม มีเพียง A เท่านั้น ที่ผู้เล่นสามารถเลือกนับแต้มได้เองว่าจะนับเป็น 1 แต้ม หรือ 11 แต้ม

ในการเริ่มต้นผู้เล่นจะต้องเริ่มวางเดิมพันลงก่อน แล้วหลังจากนั้นดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะเริ่มแจกไพ่รอบวง โดยจะแจกเพียง 2 ใบ ต่อหนึ่งผู้เล่นเท่านั้นในตอนเริ่ม ทั้งนี้ไพ่ที่ถูกแจกให้ผู้เล่นนั้นจะถูกทำการหงายทุกใบ ในขณะที่ไพ่ของดีลเลอร์จะถูกหงายเพียงหนึ่งใบเท่านั้น ใบที่สองจะถูกเปิดหลังจากที่ผู้เล่นทุกคนในวงทำการจัดไพ่ของตัวเองเสร็จแล้วเท่านั้น

เมื่อผู้เล่นทุกคนได้รับไพ่มาครบถ้วนแล้ว ก็จะถึงเวลาจัดไพ่ของตัวเอง โดยสามารถเลือกตัดสินใจเองได้ว่าจะจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่ จะเพิ่มเดิมพันขึ้นเป็นสองเท่าพร้อมกับจั่วไพ่เพิ่มอีกหนึ่งใบ หรือจะขอแยกไพ่ออกเป็นสองขา ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่น ณ ขณะนั้น ที่สำคัญคือไพ่ทั้งหมดในมือจะต้องไม่เกิน 21 แต้ม หากผู้เล่นถือไพ่ต่อขาเกิน 21 แต้ม ก็จะถูกปรับแพ้ทันที

การนับแต้ม และการตัดสินแพ้ชนะ ในเกมแบล็คแจ็ค Kingmaker

สำหรับการตัดสินแพ้ชนะในเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้นอย่างที่กล่าวไปข้างต้นก็คือ ผู้เล่นคนไหนที่ถือแต้มใกล้เคียงเลข 21 มากที่สุดคนนั้นคือผู้ชนะ แต่ตัวดีลเลอร์ หรือเจ้ามือจะต้องมีแต้มไม่ต่ำว่า 16 กล่าวคือต้องถือไพ่ที่มีแต้มอยู่ระหว่าง 17-21 เท่านั้น ถึงจะทำการตัดสินผู้เล่นได้

 

หากดีลเลอร์ถือไพ่ต่ำว่า 16 แต้ม จะต้องทำการจั่วไพ่จนกว่าจะถึง 17 แต้มขึ้นไป ในขณะเดียวกันหากดีลเลอร์ถือไพ่เกิน 21 แต้มผู้เล่นก็จะชนะทันที ทั้งนี้หากดีลเลอร์ถือไพ่อยู่ที่ 17 แต้ม ก็จะไม่มีสิทธิจั่วไพ่เช่นกันและเมื่อดีลเลอร์ หรือเจ้ามือมีแต้มอยู่ที่ 17-21 แต้ม ก็จะต้องมาทำการเปรียบเทียบแต้มกับผู้เล่นแต่ละคนเพื่อตัดสินว่าใครจะได้เดิมพัน หรือเสียเดิมพัน

 

เกมไพ่ Blackjack ออนไลน์ เล่นยังไงได้บ้าง

รูปแบบการเล่นของไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ นั้นคุณสามารถเลือกเล่นได้อย่างหลากหลาย เป็นเกมไพ่ที่คุณสามารถเลือกแนวทางในการเดิมพันได้ด้วยตัวเอง แต่จะมีวิธีการเล่นแบบไหนบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันได้เลย

 

แบล็คแจ็คแบบประกันภัย

หากไพ่ใบแรกของดีลเลอร์คือ A จะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือรับประกันความเสี่ยงของผู้เล่น หากเจ้ามือมีแต้ม 21 เงินรางวัลที่จะได้รับคือเงินครึ่งหนึ่งของเงินที่วางเดิมพัน แต่หากเปิดมาดีลเลอร์ไม่ได้ 21 แต้ม เกมก็จะดำเนินต่อไป

 

การเพิ่มเดิมพันเป็น 2 เท่า

เมื่อดีลเลอร์ทำการเปิดไพ่ และเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นสามารถเรียกไพ่เพิ่ม และยังสามารถวางเดิมพันได้อีกด้วย

 

การแยกไพ่

เมื่อไพ่ในมือทั้งสองใบนั้นมีค่าเท่ากัน สามารถแยกไพ่ออกเป็นสองมือ หรือสองขาได้ โดยจะต้องวางเงินเดิมพันอีกขา เท่ากับเงินเดิมพันหลักที่วางลงไปในตอนแรก เช่น ในตอนแรกวางเงินเดิมพันไป 100 บาท เมื่อมีการแยกอีกขาก็ต้องวางเพิ่มอีก 100 บาท เป็นต้น

 

การวางเดิมพันแบบ Perfect Pair

การวางเดิมพันแบบที่สร้างโอกาสชนะให้กับผู้เล่นเพียงใช้ไพ่ 2 ใบ เท่านั้น โดยจะต้องเป็นไพ่คู่ สามารถแย่งออกเป็น คู่เหมือน เช่นไพ่ที่เป็นดอกเดียวกัน หรือคู่สี ไพ่ที่มีสี และแต้มเหมือนกันสองใบแต่คนละดอก หรือคู่ผสม ดอกและสีต่างกัน โดยแต่ละแบบจะมีอัตราการจ่ายเดิมพันที่ต่างกัน โดยคู่เหมือนจะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 25:1 คู่สีอยู่ที่ 12:1 และคู่ผสมอยู่ที่ 6:1 โดยอัตราการจ่ายเดิมพันนั้นจะแตกต่างกันในแต่ละโต๊ะ

 

การเล่นไพ่แบล็คแจ็คแบบ 21+3

การที่ไพ่ในมือของผู้เล่นมีโอกาสที่จะเกิดการตองเหมือน สเตรทฟลัช สเตรท และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยอัตราการจ่ายของไพ่แต่ละรูปแบบก็จะแตกต่างกันดังนี้

1. ตองเหมือน คือการที่มีไพ่ 3 ใบเหมือนกัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 100:1
2. สเตรทฟลัช คือการที่ไพ่เรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกัน เช่น 7 8 9 โพแดง เป็นต้น อัตราการจ่ายอยู่ที่ 40:1
3. ตอง การที่มีไพ่แต้มเท่ากันแต่ดอกไม่เหมือนกัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 30:1
4. สเตรท คือการที่ไพ่ในสือเรียงกันตามลำดับ แต่สี และดอกของไพ่มีความแตกต่างกัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 10:1
5. ฟลัช คือการที่ไพ่ในมือมีดอกเดียวกัน 3 ใบ อัตราการจ่ายอยู่ที่ 5:1

ทั้งนี้อัตราการจ่ายเดิมพันต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับแต่ละโต๊ะที่กำหนดไว้ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามข้อดีของการเล่น Blackjack จาก คิงเมกเกอร์ คาสิโน นั้น คือการที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงตัวเกมได้ง่าย ด้วยรูปลักษณ์ของเกมที่ออกแบบมาจำลองการเล่นเสมือนจริง กฎกติกาจริง เน้นความเป็นสากลแล้ว การที่ผู้เล่นสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา กับเงินตั้งต้นเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นการเล่น Blackjack ที่ไม่เหมือนเจ้าอื่น ๆ ใครจะรู้ว่าเศรษฐีคนต่อไปอาจจะเป็นคุณก็ได้

BLACKJACK เกมคาสิโนออนไลน์ คือเกมการพนันที่กำลังนิยมอย่างมากในขณะนี้ เมื่อพูดถึงเกมคาสิโนทุกคนก็คงจะนึกถึง บาคาร่าไม่ก็ เสือมังกร แต่มีอีกเกมไพ่หนึ่งที่ถูกลืมจากคาสิโนออนไลน์

BLACKJACK เกมคาสิโนที่ถูกลืม

BLACKJACK เป็นเกมที่ไม่นิยมเท่าไหร่นักในประเทศไทย ส่วนการเล่นนั้นก็ง่ายมากสำหรับเกม BLACKJACK เพียงแค่ทำให้เลขหน้าไพ่รวมกันให้ใกล้เคียง 21 มากที่สุด หรือถ้าหากรวมกันได้ 21 แต้มก็ถือว่าเป็นผู้ชนะไปเลย แต่ถ้าหากรวมกันแล้วได้เกิน 21 ก็จะถือว่าแพ้ทันทีเช่นกัน

วิธีการเล่นเกมไพ่ BLACKJACK

1. ผู้เล่นวางเดิมพัน
2. เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 1 ใบก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือได้ 1 ใบ หรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องคว่ำเสมอ)
3. หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21 มากสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที (เรียกไพ่ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
4. กฎของ BLACKJACK เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
5. หากผู้เล่นพอใจที่ 16 สามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ

ศัพท์ BLACKJACK

• BLACKJACK การได้แต้ม 21 ทันทีเมื่อแจกไพ่สองครั้งแรก
• Hit การเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้เข้าใกล้ 21 แต้มมากที่สุด
• Stand การพอใจในไพ่ที่ได้มา
• Double down (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) เป็นการลงเดิมพันเพิ่มขึ้น 100% ตามกฎของแบล็กแจ็ก ผู้เล่นวางเงินเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลี่ยม กรณีนี้เรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบเท่านั้นเพื่อลุ้นว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นอะไร
• Split (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากผู้เล่นได้ไพ่คู่ เช่น 5 สองใบ เจ้ามือจะถามว่าต้องการ Split? ถ้าตอบตกลงผู้เล่นก็สามารถเล่นได้ 2 ชุดได้ในเวลานั้น
• Surrender (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) ในบางเกมผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้ได้ และได้เงินพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว
• Insurance (ใช้ได้เมื่อตอนได้ไพ่ที่แจกมา 2 ใบแรกเท่านั้น) หากไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่าทำ Insurance? ถ้าทำก็เพิ่มเงินอีกครึ่งของวงเงินเดิมพัน (เช่น เงินเดิมพัน 10 Insurance คือ 5) เพราะไพ่ A ของเจ้ามือถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนะ หากเจ้ามือได้แบล็กแจ็กผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำ Insurance เพิ่มกลับมา ในทางกลับกันถ้าเจ้ามือแพ้จะริบเงินที่ทำ Insurance ไป

การตัดสิน แพ้-ชนะ

หลังจากแจกไพ่ 2 ฝ่ายระหว่าง เจ้ามือและผู้เล่น ฝ่ายใดมีแต้มใกล้เคียง 21 ที่สุดจะเป็นผู้ชนะ หากไม่ถึง 21 ก็สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ หากได้แต้มเกิน 21 จะเท่ากับ 0 แต้มหรือเรียกว่าระเบิด

• 2 ฝ่ายแต้มเท่ากัน เสมอ
• หากผู้เล่นได้ 21 แต้ม ถือว่าชนะทันที ไม่ต้องรอไพ่ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าได้BLACKJACK x1.5
• ผู้เล่นได้รับไพ่ 2 ใบแรกเป็นคู่ สามารถแยกไพ่เป็นสองชุดในการเล่นตานั้นได้
• หลังจากได้รับไพ่ 2 ใบและมั่นใจจะชนะด้วยไพ่ใบที่ 3 สามารถเดิมพันได้ 2 เท่า

ราคาการเดิมพัน

• ไพ่ธรรมดา   จ่าย 1:1
• ไพ่BLACKJACK จ่าย 1:5
• แยกไพ่  จ่าย 1:1
• เดิมพันประกัน จ่าย 2:1
• เก็บก่อน  จ่าย 1:1

กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค

สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย

• เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้อง เกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
• หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพัน วางชิพ เดิมพัน ในเวลาที่กำหนด
• ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่น จะคว้าไว้ทั้งสองใบ
• จากนั้น ให้นักเดิมพัน เปิดไพ่ เพื่อลุ้นว่า แต้มของท่าน ได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
• สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
• ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหาก จั่วอาจจะ เสี่ยงแต้ม เกินได้ ให้รอลุ้น แต้ม ของดีลเลอร์ ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง

สูตรแบล็คแจ็คฉบับเซียนขั้นเทพ

• ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพัน ไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
• เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
• ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
• เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
• วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
• ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม

สูตรแบล็คแจ็ค ตัวสูตรช่วยเหลือนักเดิมพันมือใหม่ หรือเซียนที่จะช่วยคว้าเงินรางวัลมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อหาของเราที่ได้รวบรวมเคล็ดลับ สูตรแบล็คแจ็ค ที่เหล่าเซียนพนันทั้งหลายชอบใช้ในการหาผลกำไรจากเกม ไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ มาฝากพวกนักเดิมพันมือใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นแทงพนันเกมนี้ หากยังไม่รู้ว่า แบล็คแจ็คมีรูปแบบการเดิมพันยังไง ที่มาที่ไป ขั้นตอนต่าง ๆ

สามารถเข้ามาเรียนรู้และศึกษากฏกติกาเพิ่มเติมได้ พร้อมนำเทคนิคการเล่นพื้นฐานของการเล่น สูตรไพ่แบล็คแจ็ค ให้เกิดความชำนาญเพื่อต่อยอดเงินเดิมพันของท่านได้ พร้อมทั้งยังสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเกมคาสิโนออนไลน์ ซึ่งจะมี สูตรเทคนิคแบล็คแจ็ค อะไรมาบอกบ้างเรามาดูกันเลย

แบล็คแจ็คออนไลน์ มือใหม่ ที่ต้องรู้ก่อนเล่น ” ไพ่แบล็คแจ็ค หรืออีกชื่อหนึ่งที่นักพนันใช้เรียกกันก็คือ ไพ่ 21 โดยการรวมแต้มของไพ่ให้ได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับกับแต้ม 21 มากที่สุด เกมไพ่ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกคาสิโน โดยเฉพาะคาสิโนในแถบยุโรป และตอนนี้ก็มีการนำแบล็คแจ็คเข้ามาอยู่ในรูปแบบของ เกมคาสิโนออนไลน์ แล้วด้วยเช่นกัน เพื่อให้นักพนันที่ชื่นชอบเกมนี้ได้เข้ามาสัมผัสความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ชิดขอบจอมากขึ้น

ทำความรู้จักกับเกมไพ่แบล็คแจ็ค

เกมไพ่แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเป็นเกมพนันที่ได้นำมาจัดการแข่งขันทางฝั่งอเมริกาและยุโรป โดยมีรูปแบบกฏกติกาที่ไม่ซับซ้อนพร้อมทั้งสร้างความสนุกสนาน สามารถเข้าวางเดิมพันบนโลกออนไลน์สนุกกับเพื่อนหลายคน ไพ่แบล็คแจ็คเป็นเกมที่ใช่ความคิดความจำและยังเป็นเกมไพ่ที่อาศัยดวงพร้อมทั้งฝีมือในการคิดวิเคราะห์ที่อาศัยประสบการณ์พร้อมมี สูตรเล่นไพ่แบล็คแจ็ค เป็นตัวช่วยสำหรับมือใหม่ที่จะคว้าเงินเดิมพันที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น

แบล็คแจ็คออนไลน์ คืออะไร

เอาง่าย ๆ มันก็คือการเอาไพ่ BlackJack ไปให้เราเล่นผ่านระบบของ คาสิโนออนไลน์ นั่นเอง ซึ่งก็มีทั้งที่เป็นแบบเกมคาสิโน และแบบคาสิโนสด (เล่นกับเจ้ามือผ่านกล้องวงจรปิด) แล้วในช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ ไหนจะมีโรคระบาดอีก การเดินทางไปเล่นกันที่คาสิโนมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์อยู่บ้านมันคือดีสุด ๆ อยากเล่นตอนไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาไปเล่นไกล ๆ เอาเงินที่ต้องจ่ายตรงนั้นมาเดิมพันยังจะคุ้มกว่าอีก

นอกจากนี้ยังมีเกมไพ่ แบล็คแจ็ค หลากหลายรูปแบบให้เราได้เล่นอีกด้วย จากเดิมที่เคยเล่นแค่แบบเดียว ใช้ไพ่แค่สำรับเดียว ทีนี้เราจะได้เจอเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่า เจอไพ่ที่มีมากขึ้น พร้อมกับกติกาใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยได้ลอง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นยากครับ เพราะทุกเกมใช้กติกาเดียวกันที่มีพื้นฐานมาจาก แบล็คแจ็ค แบบดั้งเดิมที่มีให้เราเล่นมาร้อยกว่าปีแล้ว

กฏการเล่น และ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค

สำหรับ วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมพนันที่น่าสนใจ สามารถเลือกลงทุนได้ง่าย โดยการนับแต้มไพ่ไม่ยาก แบล็คแจ็ค จากการนับไพ่สองใบแรกและเรียกไพ่เพิ่มได้แต่การเรียกไพ่จะต้องไม่เกิน 21 แต้ม จั่วกี่ใบก็ได้ หากจั่วไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะถือว่าระเบิดหรือแพ้นั่นเอง ในการเล่นแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยไพ่ 52 ใบในการเล่นครั้งนี้ โดยมีวิธีการเล่นที่ไม่ยุ่งยากเลย

• เริ่มต้นการเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็ค ให้ทำการหาห้องเกมเดิมพัน โดยการเลือกโต๊ะเล่นตามชอบได้เลย
• หลังจากที่เราได้ห้องที่จะเล่นแล้ว ให้นักเดิมพันวางชิพเดิมพันในเวลาที่กำหนด
• ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้กับนักเดิมพันทุกท่านที่อยู่ในห้องรอบละ 1 ใบ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง จากนั้นก็เริ่มแจกอีก 1 ใบ ให้จนครบได้คนละ 2 ใบเรียบร้อน แต่ดีลเลอร์จะมีแค่ 1 ใบ ที่หงายอยู่ และอีก 1 ใบที่คว่ำไว้ แต่สำหรับของผู้เล่นจะคว้าไว้ทั้งสองใบ
• จากนั้นให้นักเดิมพันเปิดไพ่เพื่อลุ้นว่าแต้มของท่านได้ใกล้เคียงไพ่ 21 แต้ม หรือไม่ ถ้าหากยังไม่ใกล้เคียงสามารถเรียกเพิ่มได้จากดีลเลอร์ไม่มีจำกัดจำนวน แต่ถ้าว่าเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม จะทำให้นักเดิมพันแพ้ในรอบนั้นไป ซึ่งการเรียกไพ่จะต้องเรียงตามลำดับการแจกไพ่ วนไปถึงคนสุดท้าย
• สำหรับกฏเหล็กที่สำคัญของ แบล็คแจ็ค นั้นคือ หากแต้มไพ่บนมือของดีลเลอร์มี 17 แต้มขึ้นไป และถ้าแต้มไพ่ของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มลงไปของรอบนั้นละก็จะถือว่าดีลเลอร์เป็นฝ่ายชนะไป ไม่สามารถจั่วได้
• ถ้าแต้มของนักเดิมพันมีอยู่ 16 แต้มก็สามารถหยุดไม่ต้องจั่วก็ได้ เพราะหากจั่วอาจจะเสี่ยงแต้มเกินได้ ให้รอลุ้นแต้มของดีลเลอร์ให้เกิด 21 แต้มเอาดีกว่า ถ้าหากเกินเราก็จะชนะไปในเกม แบล็คแจ็ค นั่นเอง

เทคนิคการเล่นพื้นฐาน การเล่น สูตรแบล็คแจ็ค

1. เมื่อผู้เล่นได้ไพ่ในมือน้อยกว่า 15 แต้ม ควรที่จะทำการจั่วเพิ่ม
2. แต่หากผู้เล่นมีไพ่ในมือมากกว่า 17 แต้ม ไม่ควรที่จะต้องจั่วไพ่เพิ่ม
3. คิดวิเคราะห์ไพ่ของเจ้ามือว่าจะมีไพ่ใบใดอยู่ในมือบ้าง
4. ผู้เล่นสามารถใช้สถิติการแพ้ชนะเข้ามาช่วยในการตัดสินใจวางเงินเดิมพันได้
5. ผู้เล่นจะต้องตั้งงบการเล่นแต่ละวันอย่างชัดเจน
6. เมื่อได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ควรที่จะหยุดเล่นและมาเล่นในวันถัดไป
7. แต่หากท่านเสียจนงบหมด ก็ไม่ควรที่จะต้องเล่นต่อเช่นเดียวกัน คิดซะว่าวันนี้ไม่ใช่วันของท่าน
8. ถึงแม้จะมีกลยุทธ์ เทคนิคการเล่นแต่ถ้าโชคยังไม่ใช้ของเรา ก็ควรที่จะหยุดเล่น และนั่งดูผู้เล่นคนอื่น เพื่อสังเกตวิธีการเล่นของคนอื่นมาปรับเปลี่ยนใช้กับตัวเอง

เทคนิคในการนับไพ่ เป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานที่คนเล่นแบล็คแจ็คจะต้องรู้ เพราะเป็นวิธีการที่จะช่วยให้นักพนันตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้นเพื่อที่จะหาทางเอาชนะเจ้ามือ สำหรับวิธีการนับไพ่ขั้นพื้นฐานมีดังนี้

• ไพ่ 2,3,4,5,6 ให้นับเป็น +1
• ไพ่ 7,8,9 ไม่ต้องนับ
• ไพ่ 10,J,Q,K,A ให้นับเป็น -1

วิธีการนับ

ในตอนที่เจ้ามือทำการแจกไพ่ ให้สังเกตว่าไพ่ที่ออกไปเป็นไพ่อะไรบ้างตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น เลข 1 ก็นับบวกเป็น 1 แต่ถ้าจ่ายไปอีกมีไพ่ Q ก็ให้หักลบออกไป 1 แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะนับได้แต้มมากกว่า 16 แต้มขึ้นไป นั่นคือจังหวะที่เรารอคอย

โดยให้รู้ไว้เลยว่าไพ่เล็กๆ ที่ออกหลังจากที่เรานับได้มากกว่า 16 แต้มขึ้นไปแล้วนั้นออกไปหมดแล้ว ที่เหลือก็จะเป็นไพ่ที่มีแต้มเยอะๆ และในตอนนี้ก็จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอาไพ่เพิ่มหรือจะอยู่ดี แต่ถ้ามีแต้มพอเหมาะอยู่แล้วเช่น 13-15 แต้มแนะนำว่าให้อยู่จะดีกว่า เพราะเดี๋ยวเจ้ามือเอาไพ่เพิ่มเมื่อไหร่และได้ไพ่ใหญ่ที่เหลือในกอง เจ้ามือก็จะมีแต้มเกิน 21 แต้มไปเอง นั่นหมายความว่าเราชนะแล้ว

เห็นไหมว่าการเล่นแบล็คแจ็ค มีความซับซ้อนมากกว่าการเล่นไพ่อย่างอื่นมาก ดังนั้นผู้เล่นที่เป็นมือใหม่ควรศึกษาทุกอย่างให้รอบคอบให้เข้าใจให้ดีตามวิธีการที่แนะนำข้างต้นเสียก่อน และอย่าลืมเข้าไปทดลองเล่นตามเว็บฟรีแบล็คแจ็ค ก่อนที่จะตัดสินใจใช้เงินจริงเล่น เพียงแค่นี้ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้คุณทำกำไรกับเกมไพ่แบล็คแจ็ค ได้ดีกว่าเดิมแล้ว

สูตรแบล็คแจ็คฉบับเซียนขั้นเทพ

• ขอจั่วไพ่เมื่อจำเป็น โดยการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็ค นักเดิมพันจะต้องเรียกไพ่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งช่วงไหนควรเรียก คือ หากได้ไพ่สองใบแล้วแต้มรวมกันได้น้องกว่า 9 แต้ม
• เพิ่มเงินเดิมพันในโอกาสที่ดี หากเมื่อเปิดไพ่สองใบได้ 9 แต้ม ซึ่งเป็นโอกาสที่ต้องได้แต้มดับเบิ้ล โดยการเพิ่มเงินวางเดิมพันเป็น 2 เท่า แต่ถ้าดีลเลอร์มีไพ่บนมือเพียง 3 ถึง 6 แต้มแนะนำให้จั่วไพ่เพิ่มได้เลย
• ดับเบิ้ล Double หากได้แต้ม 10 กับ 11 นักเดิมพันควรดับเบิ้ล โดยดีลเลอร์มีแต้มเพียง 2 ถึง 10 แต้มให้นักเดิมพันเรียกไพ่เพิ่ม
• เดินเกมให้เป็น หากดีลเลอร์ได้แต้มอื่น หากนักเดิมพันได้ผ่านมาถึงข้อนี้แน่นอนว่านักเดิมพันคงผ่านการเดิมพันมาไม่น้อย แปลว่าท่านได้รู้จักรูปแบบไพ่ได้ละเอียดมากพอ เช่น หากท่านได้ไพ่บนมือมี 12 แต้ม หรือมากกว่า 13 ถึง 16 แต้ม แล้วดีลเลอร์มีแต้มเพียง 3 ถึง 6 แต้ม ควรทำการเรียกไพ่เพิ่ม หากไพ่สองใบแรกมีแต้ม 17 ถึง 21 ไม่ต้องเรียกไพ่เพิ่ม เพราะถือว่าเป็นแต้มไพ่ที่ดีที่สุด เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มอาจจะทำให้ไม่มีแต้มเลยก็ได้
• วางแผนจัดการเงินลงทุน หากนักเดิมพันอยากจะเดิมพันแบล็คแจ็คให้ได้ผลกำไรที่ดี ควรจะมีการวางแผนจัดการเงินลงทุนก่อนเดิมพัน จะได้ไม่เดือดร้อนหรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังได้ จะได้จัดการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดได้ สำรองเงินทุนได้
• ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป หากอยากจะเป็นเซียนนักเดิมพันจะต้องศึกษาให้ดี และ ไม่ควรแยกไพ่มากเกินไป โดยเฉพาะการแยกคู่ 6 และคู่ 10 ไพ่แต้มพวกนี้ไม่ควรแยกเลย เพราะอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบหรือเดิมพันแพ้ได้ ยิ่งแยกไพ่มากขึ้นยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้ไพ่แต้มมากกว่า 21 แต้ม

 

เทคนิคแบล็คแจ็ค ออนไลน์ แม้ว่าสมัยนี้เราจะสามารถหาเล่น แบล็คแจ็ค ได้ง่าย ๆ ตาม คาสิโนออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นฐานการเล่นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ทั้งในเรื่องของวิธีเล่น กติกาต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีแค่ดวงที่ต้องพกไป กับเทคนิคที่จะใช้ในการเล่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกจากโต๊ะไวก่อนกำหนด ซึ่งเทคนิคเหล่านี้แต่ละคนก็จะมีวิธีเล่นที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ตัวเอง

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่นยังไง ลองศึกษา เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เล่นแบล็คแจ็คให้ดีขึ้น และจะรู้ว่ามันไม่ได้ยากเกินไปเลย ก่อนที่จะเข้าสู่เทคนิคการเล่น สิ่งที่ผู้เล่นต้องเข้าใจก่อนลงสนามจริงก็คือการตัดสินใจเล่นด้วยตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีอยู่ ซึ่งหลังจากที่เราได้รับแจกไพ่จากเจ้ามือมาทั้ง 2 ใบแล้ว เราจะต้องตัดสินใจว่าจะเล่นด้วยตัวเลือกไหนบ้าง ก่อนที่เจ้ามือจะทำการหงายไพ่หรือเรียกไพ่เพิ่ม เพื่อสู้กับเรา

ก่อนอื่นคุณจะต้องเรียนรู้เรื่องข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแบล็คแจ็คกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคำศัพท์ที่ใช้ในการเล่นพนัน กติกาการเล่น  รวมทั้งต้องเข้าใจเรื่องของ เทคนิคการเล่นแบล็คแจ็ค ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นอย่างมาก อย่างเช่น เรื่องคำศัพท์ Blackjack ที่มีหลายคำมาก เช่น Hit ( สู้ ) การเรียกไพ่เพิ่ม , Stand ( หยุด ) ไม่จั่วไพ่เพิ่ม , Double down ลงเดิมพันเพิ่ม 100% ( ใช้เมื่อตอนแจกไพ่ 2 ใบ ), Split เรียกไพ่เพิ่มอีกชุด , Surrender ประกันเงินทุนครึ่งเดียว กดยอมแพ้ จะได้เงินรางวัลคืนครึ่งหนึ่ง , Insurance (ใช้ในกรณีแจก 2 ใบแรก)

เมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A สามารถเลือกเพิ่มเงินสู้ได้ครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน , Even Money เมื่อผู้เล่นได้ไพ่ แบล็คแจ๊ค คุณสามารถเลือกเก็บก่อน คุณจะชนะด้วยอัตราจ่าย 1:1 แต่ถ้าไม่เก็บก่อน ต้องการลุ้นไพ่เจ้ามือ ถ้าเจ้ามือได้เหมือนกัน ก็ถือว่าเสมอ แต่ถ้าเจ้ามือแพ้ไม่ได้แบล็คแจ็คจะได้ราคาจ่าย 2:3 นี่คือ คำศัพท์บางส่วนที่คุณจะต้องทำความเข้าใจ

เพื่อให้คุณเล่นเกมได้ง่ายยิ่งขึ้น และเมื่อคุณได้รู้คำศัพท์แล้ว ต่อมาคุณจะต้องเข้าใจเรื่องของกติกาด้วย เพื่อให้คุณเข้าใจการเล่นได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังจะต้องคิดถึงเรื่องของ ทริคจั่วไพ่ ด้วย เพื่อให้คุณเข้าใจในการเล่นอย่างดีที่สุด

ศัพท์ที่ควรรู้ แบล็คแจ็ค

• Stand

หลังจากที่ดูไพ่ในมือแล้ว หากว่าเราพอใจกับแต้มที่มีอยู่ในมือ เจ้ามือจะถามเราว่าต้องการเรียกไพ่เพิ่มหรือไม่ เราสามารถปฏิเสธได้ หรือถ้าเป็นการเล่นผ่าน คาสิโนออนไลน์ ก็กดไปที่ปุ่ม Stand จากนั้นก็ลุ้นเอาว่าเรากับเจ้ามือใครจะได้แต้มมากกว่ากัน

• Hit

เป็นการขอไพ่เพิ่มจากเจ้ามือ เนื่องจากเราดูแต้มในมือแล้วคิดว่ามันยากที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้ หรือแต้มมันดูน้อยไป ตรงนี้เราสามารถกด Hit เพื่อรับไพ่เพิ่ม โดยมีเป้าหมายให้แต้มรวมใกล้เคียงกับ 21 แต้มให้มากที่สุด

• Double Down

เป็นการเพิ่มเดิมพันเป็นเท่าตัว เมื่อเราคิดว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วยไพ่สองใบนี้ หรือหลังจากเรียกไพ่เพิ่มอีกใบก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือหลังจากเพิ่มเงินเดิมพันไปแล้วจะเรียกไพ่ได้แค่ใบเดียวเท่านั้น

• Split

คือการแบ่งไพ่ออกเป็น 2 กอง จะทำได้ก็ต่อเมื่อเราได้รับไพ่คู่เท่านั้น คาสิโนออนไลน์ บางแห่งก็อนุญาตให้เราสามารถ Split ได้มากถึง 3-4 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะทำได้แค่ครั้งเดียว

• Insurance

ทันทีที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่ A เจ้ามือจะถามผู้เล่นว่าต้องการวางประกันเดิมพันหรือไม่ ซึ่งเลินประกันนี้จะเป็นการประกันในกรณีที่เจ้ามือติดไพ่ แบล็คแจ็ค ด้วย Hole Card ซึ่งจะทำให้เจ้ามือชนะในทันที หากต้องการทำประกันเดิมพันจะต้องวางเดิมพันเป็นครึ่งหนึ่งของเดิมพันที่วางไว้ก่อนหน้านี้

• Surrender

เป็นการยอมแพ้หากเราคิดว่าโอกาสที่จะเอาชนะเจ้ามือนั้นมีน้อยเกินไป ซึ่งการยอมแพ้จะทำให้เราได้รับเดิมพันคืนมาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งจากเงินเดิมพันที่วางลงไป

เทคนิคแบล็คแจ็ค ออนไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสชนะ

1. รู้จังหวะ Hit และ Stand

ป้าหมายสำคัญในการเล่น แบล็คแจ็ค ไม่ได้อยู่ที่การทำแต้มให้ได้ 21 แต้ม แต่เป็นการเอาชนะเจ้ามือให้ได้ด้วยแต้มที่เหนือกว่า ดังนั้นทันทีที่ได้รับไพ่มาจะต้องดูก่อนว่าแต้มรวมเป็นอย่างไร หากอยู่ระหว่าง 0-11 แต้ม ให้ Hit แต่ถ้าอยู่ระหว่าง 12-15 ให้ดูก่อนว่าไพ่หงายของเจ้ามือเป็นแต้มสูงหรือต่ำ หากเป็นไพ่ต่ำที่มีแต้มระหว่าง 2-6 เท่ากับว่าอีกฝ่ายมีโอกาสจะทำแต้มเกิน 21

เนื่องจากต้อง Hit ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้มากกว่า 17 แต้ม ตรงนี้ให้เรา Stand แต่ถ้าเป็นไพ่สูง 7-10 แต้ม ก็มีโอกาสที่เราจะแพ้ให้เจ้ามือ หลักการจำก็ง่าย ๆ คือ ถ้าไพ่ในมือต่ำกว่า 11 แต้มให้ Hit ถ้ามากกว่า 16 ให้ Stand นอกจากนั้นให้ดูไพ่หงายของเจ้ามือประกอบไปด้วย

2. รู้ว่าควร Insurance ตอนไหน

Insurance หรือการประกันเดิมพันเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่นับไพ่ไม่เป็น หรือไม่มีการใช้เทคนิคใด ๆ ในการเล่น เงื่อนไขสำคัญของฝั่งเราก็คือไพ่ในมือต้องไม่มีโอกาสติด 21 แต้ม เพราะถ้าเรามีโอกาสชนะเจ้ามือด้วยแต้มที่เหนือกว่า หรือว่าชนะด้วย 21 แต้มได้ การวางประกันเดิมพันก็ไม่ต่างจากการเอาเงินไปทิ้ง

เพราะเราต้องวางเงินประกันเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของเดิมพัน และถ้าชนะจะได้รับเงินเพียงครึ่งเดียว ดังนั้นหากแต้มต่ำกว่า 16 ก็ให้ทำ Insurance จะดีกว่า

3. เมื่อมีโอกาสไม่ควรพลาด Double Down

การเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราได้กำไรมากขึ้น แต่มันก็มีเงื่อนไขในการทำ Double Down อยู่เหมือนกัน หากไพ่ฝั่งเจ้ามือเป็นไพ่ต่ำที่มีแค่ 2-6 แต้ม เป็นเป็นโอกาสดีที่จะอัดเดิมพันเข้าไป แต่ถ้าเป็นไพ่สูงอย่าง 9-11 แต้ม การเพิ่มเงินเดิมพันจะกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง

เพราะเจ้ามืออาจทำแต้มสูงกว่าเดิมได้จากการ Hit นอกจากนี้ตามกฎของ คาสิโนออนไลน์  แล้วหลังจากที่ Double Down เราจะ Hit ได้อีกแค่ใบเดียวเท่านั้น จำไว้ว่าจังหวะที่ดีที่สุดในการ Double Down ก็คือช่วงที่เรามีอยู่ 10-11 แต้ม และเจ้ามือมีแต้มต่ำกว่า 6 นั่นเอง

4. Split ให้ถูกคู่

การ Split หรือแยกไพ่คู่เป็นอีกเรื่องที่ควรระวังมาก ๆ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งเราสามารถแยกไพ่ได้ทุกคู่ แต่ตามกฎมาตรฐานแล้วเราจะแยกได้เฉพาะไพ่คู่ AA และ 88 หลังจากแยกแล้วก็ต้องเพิ่มเงินเดิมพันลงไปในขาที่แยก ซึ่งการ Split จะช่วยให้เรามีโอกาสชนะมากขึ้น หากไพ่ขาหนึ่งแพ้ ก็ยังได้ลุ้นอีกขาที่เหลือ

อย่างไรก็ตามการ Split ก็มีข้อควรระวังคือเมื่อใดก็ตามที่ได้ไพ่คู่ 1010 หรือคู่ 66 ห้ามแยกไพ่เด็ดขาด เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง เนื่องจากไพ่คู่ 1010 มีโอกาสชนะสูงมากจากแต้มรวม 20 แต้ม ส่วนการแยกไพ่คู่ 66 จะกลายเป็นการลดโอกาสชนะของตัวเองให้น้อยลงไปอีกด้วยแต้มไพ่ที่น้อยลง

BlackJack ตัวไหนที่นิยมเล่นใน คาสิโนออนไลน์ บ้าง

อย่างที่ได้บอกไปแล้วครับว่าใน คาสิโนออนไลน์ นั้นมีเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ให้เราได้เล่นกันเยอะมาก แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนโกง เพราะเกมทุกเกมที่เอามาให้บริการจะถูกตรวจสอบจากหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการพนันระดับสากลอยู่แล้ว สำหรับเกม BlackJack ที่นิยมเล่นกันก็จะมีอยู่ 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ

1.แบล็คแจ็คสวิตช์ ถือได้ว่าเป็นตัวฮิตอันดับต้น ๆ ของคาสิโนออนไลน์เลยก็ได้ ความโดดเด่นของมันอยู่ที่ยิ่งเราวางเดิมพันมากยิ่งมีลูกเล่นมากขึ้น บวกกับกับกฎ bespoke ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ไม่ว่าคาสิโนไหนก็ต้องมี

2.แบล็คแจ็คสไตล์ยุโรป เป็นอีกหนึ่งเกมที่เราสามารถหาเล่นได้ทุกที่ ซึ่งไม่ได้นิยมแค่ในฝั่งยุโรปเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นเกมไพ่ที่มีใกล้เคียงกับไพ่ BlackJack แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีความพิเศษตรงที่เราสามารถตัดสินใจในการเล่นได้ง่ายขึ้น เพราะไพ่ใบแรกของเจ้ามือจะถูกหงายให้ผู้เล่นเห็นเสมอ อย่างเวลาที่เจ้ามือออกไพ่ A มาก่อน เราจะรู้เลยว่าตอนนี้เจ้ามือมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะติด แบล็คแจ็ค

แล้วเราควรจะทำประกันเดิมพันดีหรือไม่ และช่วยลดความเสี่ยงที่จะโดนแยกไพ่อีกด้วย สำหรับเกมนี้นิยมเล่นกันด้วยไพ่ 2 สำรับ การนับไพ่จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ European Style อีกต่อไป

3.แบล็คแจ็คหลายมือ เป็นไพ่ที่เหมาะกับผู้เล่นขึ้นเบื่อ หรืออยากเพิ่มความท้าทายด้วยการเล่นพร้อมกันหลายมือ จากเดิมต้องรอให้ติดไพ่คู่ก่อนถึงจะสามารถแยกไพ่ได้ ในเกมประเภทนี้อาจจะดูเหมือนว่าเราเป็นแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ เพราะการวางเดิมพันแบบหลายมือจะทำให้มีโอกาสเสียมากกว่าได้ กลับกันถ้าเราวางเดิมพันในจำนวนที่เหมาะสม ต่อให้เสียไปสักมือ แต่ถ้ามือที่เหลือชนะก็สามารถกวาดกำไรกลับมาได้เช่นกัน